ครั้งแรกที่ผมตัดสินใจอุปการะเด็กนักเรียนทุนของมูลนิธิสันติสุข ถึงแม้ว่าผมจะยังไม่เชื่อว่าสิ่งนี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ แต่ลึกๆแล้ว ผมมีความหวังว่า ถ้าทุนการศึกษาประกอบกับความพยายามของมูลนิธิสันติสุขสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเด็กคนหนึ่งได้ แม้เพียงเล็กน้อย แม้เพียงคนเดียว แต่นั่นก็เท่ากับว่าเราเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างรากฐานที่ดี ให้แก่อนาคตของชาติ และเราก็อาจจะได้เปลี่ยนชีวิตของเด็กคนหนึ่ง ซึ่งหากไม่ได้รับทุนการศึกษานี้ ก็อาจกลายไปเป็นอาชญากรหรือเป็นส่วนเกินของสังคมในอนาคต
สิบกว่าปีที่ผ่านมา ที่ผมได้อุปการะเด็กนักเรียนทุนของมูลนิธิสันติสุข มีบางคนได้รับทุนการศึกษาอื่นเพื่อเรียนต่อในระดับสูงขึ้นไป เนื่องจากเรียนดีและมีความประพฤติดี แต่บางคนก็ต้องเลิกเรียนไปเนื่องจากสภาพทางสังคม สภาพทางบ้านบีบบังคับ ซึ่งก็น่าห่วงถึงอนาคตของเด็กเหล่านี้ ที่ขณะเลิกเรียนไปนั้น กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ และผมก็ได้แต่หวังว่า สิ่งที่พวกเขาได้รับไปจากการศึกษาที่ผ่านมา จะทำให้พวกเขารู้จักคิด รู้จัดแยกแยะความดี และความเลว และสามารถกลายไปเป็นส่วนที่ดีของสังคมแม้ว่าจะไม่ได้เรียนหนังสือต่อ
ส่วนเด็กที่สามารถได้รับทุนเรียนต่อสูงขึ้นไปได้ ผมก็หวังว่าเด็กเหล่านี้ จะสามารถยึดมั่นในความดีของตนให้ได้ตลอด ซึ่งถึงแม้ว่านี่จะเป็นความเสี่ยงของการที่มูลนิธิสันติสุขจะคัดเลือกเด็กเข้ามารับทุน แต่ก็จำเป็นที่มูลนิธิสันติสุข จะต้องรับทั้งเด็กที่มีแนวโน้มจะเป็นคนดี และคนไม่ดีเข้ามาในระบบ ด้วยความหวังที่จะเปลี่ยนให้เด็กเหล่านี้ เป็นส่วนที่ดีของสังคม เป็นส่วนที่จะไปสร้างสังคมที่ดีขึ้นต่อไป เพราะหากเราสนับสนุนแต่เด็กที่มีแนวโน้มที่ดี เด็กทีมีแนวโน้มจะเป็นคนไม่ดีก็จะกลายเป็นส่วนเสียของสังคมอย่างถาวรต่อไป ซึ่งก็เท่ากับว่าความพยายามของมูลนิธิสันติสุขและของผู้ให้การอุปการะ ก็ไม่ได้ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสักเท่าไหร่
ดังนั้นสำหรับก้าวต่อไปของมูลนิธิสันติสุข ผมจึงคาดหวังการเข้ามามีบทบาทในการยกระดับจิตใจของเด็กให้มากขึ้น การฝากความหวังไว้กับโรงเรียนนั้น ไม่เพียงพอแน่นอน การยกระดับจิตใจของเด็กโดยใช้ศาสนาเป็นตัวเชื่อมนั้น เป็นสิ่งที่ดีสิ่งที่ผมอยากเห็น จึงได้แก่การที่มูลนิธิสันติสุขยึดหลักการดังกล่าวให้แน่วแน่ และสามารถใช้วิธีการที่แตกต่างจากทั่วๆ ไป ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิต และจิตใจของเด็ก เพื่อส่งผลให้จุดเล็กๆ ของสังคมเหล่านี้ สามารถสร้างแรงกระเพื่อม ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยในวงกว้าง ไปสู่หนทางที่สว่างไสวขึ้นต่อไป
คุณศรัณย์ บุญญศิริ